คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะรีวิวอย่างไรให้แตกต่างออกไปจากชาวบ้านชาวช่อง คิดไปคิดมา... ในเมื่อ Marshall บอกเอาไว้ว่ารุ่น Homeline II นี้จะทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่า “ได้เดินทางไปชมคอนเสิร์ตทุกๆ วันที่บ้านของคุณ” เราจึงตัดสินใจขอนำเอาดนตรีหลากหลายแนวมาเป็นเกณฑ์ในการรีวิวเจ้า Stanmore II เสียเลยก็แล้วกัน น่าสนุกดี!
ก่อนจะไปเทสต์เสียงกันให้กระหึ่มบ้าน ขออนุญาตพาคุณผู้อ่านไปชมรูปลักษณ์ภายนอกของ Marshall Stanmore II กันก่อนดีกว่า อันที่จริงรุ่นนี้จะมีทั้งหมด 2 สีคือ ดำ และ ขาว ซึ่งเป็นตัวที่อยู่เบื้องหน้าเราในตอนนี้ ลำโพงไร้สายรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ห่อหุ้มด้วยหนัง PVC สีขาวคุณภาพเยี่ยมทั้งด้านบน ข้าง และด้านล่าง บอกได้คำเดียวว่าดูดีเอามากๆ
ส่วนด้านหน้าแน่นอนว่าต้องมีตรา Marshall สีทองอันเป็นเอกลักษณ์ บวกกับข้อความซึ่งอยู่บริเวณด้านล่างเขียนเอาไว้ว่า EST. 1962 บนพื้นผิววัสดุที่ทำจากอลูมิเนียมสีทองอร่ามเช่นเดียวกัน
ในขณะที่แผงควบคุมด้านบนก็ยังเน้นเป็นสีทอง-ขาว ฟอนต์สีดำเรียบง่าย ไล่เรียงจากซ้ายไปขวาก็มีทั้งช่องเสียบสาย AUX, ต้นทางการเชื่อมต่อที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการทั้ง บลูทูธ / AUX / RCA, ลูกบิดปรับความดังของเสียง, ลูกบิดปรับย่านเสียงต่ำ (Bass), ลูกบิดปรับย่านเสียงสูง (Treble), ปุ่มเล่นและหยุดเพลง ปิดท้ายด้วยคันโยกเปิด-ปิดลำโพงที่ออกแบบได้อย่างน่าปรบมือให้ ส่วนด้านหลังขึงขังด้วยสีดำ คำอธิบายต่างๆ มีช่องเสียบ RCA และช่องสำหรับเสียบปลั๊กสายไฟหากถามว่าหนักไหม... ไม่หนัก แต่ถ้าจะให้หิ้วพกพาไปไหนมาไหนคงไม่สะดวกนัก เหมาะสำหรับการวางประดับอยู่ ณ มุมใดมุมหนึ่งของห้องนอน หรืออาจจะเป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสวยสำหรับห้องนั่งเล่นของคุณก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว อีกทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ที่อยู่ภายในกล่องก็คือ สายไฟ และ คู่มือการใช้เบื้องต้นนั่นเอง
แนะนำว่าขอให้เริ่มต้นจากการโหลดแอปพลิเคชั่น Marshall Bluetooth (ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android) มาไว้ในสมาร์ตโฟนของคุณเสียก่อน แน่นอนว่าสาย RCA รวมไปถึงสายแจ๊คขนาด 3.5 มม. ที่เสียบเข้าช่อง AUX นั้นไม่มีอะไรยุ่งยากมากความ แต่ความน่าตื่นเต้นมันอยู่ตรงตัวแอปฯ นี่ล่ะ
หลังจากลงทะเบียนใส่ข้อมูลต่างๆ ในแอปฯ เรียบร้อยแล้ว (ขั้นตอนน้อยมาก บอกเลย) ก็เสียบปลั๊กไฟ และได้เวลาโยกคันโยก Power ด้านขวาสุดลงมา ค้างไว้สักเล็กน้อยเพื่อทำการเปิดลำโพง ซึ่งไฟสีแดงตามปุ่มและลูกบิดต่างๆ ก็จะติด จากนั้นย้ายมาที่ปุ่ม Source กด 1 ครั้งเพื่อเปลี่ยนแปลงการเชื่อมต่อว่าจะให้มาจากบลูทูธ, ช่อง RCA หรือ AUX และกดค้างไว้เพื่อเชื่อมต่อ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้เจ้า Stanmore II ฟังเพลงโปรดได้แล้ว โดยที่สามารถปรับเสียงเบสเสียงสูงได้ตามความต้องการอีกด้วย ซึ่งความโดดเด่นก็คือลำโพง 3 ดอกอันประกอบไปด้วยซับวูฟเฟอร์ 1 ตัว และทวีตเตอร์อีก 2 ตัวเลยทีเดียว
Line : @buyall (มีเครื่องหมาย@ด้วย)
Email : info@panmakapmue.co.th
โทร : 081-9160211 , 081-9160211